Ticker

6/recent/ticker-posts

ปอยส่างลอง แม่สะเรียง

ปอยส่างลอง แม่สะเรียง

กระทู้รีวิว

จังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดงานประเพณีปอยส่างลอง ประจำปี 2557 ดังนี้

อำเภอปาย วันที่ 1-4 เมษายน 2557 (ขบวนแห่วันที่ 3)
อำเภอแม่สะเรียง วันที่ 3-6 เมษายน 2557 (ขบวนแห่วันที่ 5) **********
อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน วันที่ วันที่ 6-9 เมษายน 2557 (ขบวนแห่วันที่ 8)
อำเภอแม่ลาน้อย บ้านแม่ลาหลวง 2-4 เมษายน 2557



การจัดการประเพณีปอยส่างลอง หรือ การบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน ประจำปี 2557 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 - 6 เมษายน 2557 ณ วัดศรีบุญเรือง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน

เมือวันที่ 4-6 เมษายน 2557
นายเล็ก ศรีเรือง นายอำเภอแม่สะเรียง ร่วมกับทาง นายวิศณุ อรุณบำรุงวงศ์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอน นายอินทร นันทสมบูรณ์ รองนายกเทศมนตรีตำบลแม่สะเรียง นายสติ ทรัพย์ทวีพันธ์ นายกเทศมนตรีเมืองยวมใต้ นายทวี คะนองศรี ประธานสภาวัฒนธรรมเทศบาลเมืองยวมใต้ ร่วมกันแถลงข่าว



                   นายวิศณุ อรุณบำรุงวงศ์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ประเพณีปอยส่างลองเป็นประเพณีของชาวไต (ไทยใหญ่) ที่มีความสำคัญและยิ่งใหญ่ ซึ่งจัดงานเป็นประจำทุกปี ชี้ให้เห็นถึงความศรัทธาอันแรงกล้าในพระพุทธศาสนาของชุนท้องถิ่น ตลอดจนการสืบทอดประเพณีจากรุ่นสู่รุ่น เพื่อสืบสานและอนุรักษ์ประเพณีอันดีงามให้สืบไปชั่วลูกชั่วหลานที่เป็น เอกลักษณ์เฉพาะถิ่น ที่หาดูได้ยาก ซึ่งเป็นที่สนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างปะเทศเป็นอย่างมาก ทาง ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอน เองก็ได้มีการประชาสัมพันธ์ประเพณีอันดีงามนี้ไปในหลายช่องทางทั่วโลกเพื่อจะให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายต่อไป



ขอบคุณ โฟโตเทค และ ททท แม่ฮ่องสอน

D600 + 80-200/2.8 + 85/1.8
tamrom 17-35
ชื่อสินค้า:   ปอยส่างลอง
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ 
17 ความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
คณะของเราออกจาก ททท สำนักงานใหญ่เพชรบุรี ตอน ตีห้าครึ่งครับ เพือจะให้ไปทัน งานแห่ ส่างลอง ที่ แม่สะเรียง
วัดศรีบุญเรือง 18.159696,97.931388



เราวิ่งเส้น สายเหนือคับ  อยุธยา   สิง  ชัยนาท  นครสวรรค์ กำแพง  ตาก แล้วก็เลี้ยวซ้าย ไป เถิน ลี้   แม่สะเรียง
เส้นทาง 106  โค้งเยอะปกติ คับ แนะนำให้วิ่งกลางวันดีกว่า  ระยะทาง 768 กิโล ใช้เวลา ประมาณ 10 ชั่วโมง แบบไม่ต้องพัก
กว่าจะไปถึงที่ อ.แม่สะเรียง ไปจอดทีวัด ศรีบุญเรือง กันเลยครับ พิกัด ให้ไว้แล้ว  ก็ จะสี่โมงเย็นครับ



เข้ามาในวัด   ไหว้   รูปจำลอง เทพทันใจ (นัตโบโบยี)   ก่อนเลยครับ ความเชื่อ ห้ามกันไม่ได้



เข้ามาใน งาน ขึ้นบนศาลา ก่อนเลย  การเตรียมตัวให้พร้อม ก็จะได้รุปที่ต้องการ 
งานนี้ ผมติด ไวด์ 17-35 + sb800 ฟิลอิน


หากำหนดการไม่เจอ ก็ซัดไปเลยคับ เจออะไร เอาไว้ก่อน เดียวค่อยว่ากัน
มุมนี้กำลังแต่งหน้า ส่างลอง 


ส่างลอง ที่แต่งตัวแต่งหน้าเสร็จเรียบร้อย


ประวัติความเป็นมา
   งานประเพณีปอยส่างลองหรืองานบวชลูกแก้ว เป็นประเพณีบวชเณรตามธรรมเนียมของชาวไทยใหญ่ เพื่อให้บุตรหลานได้มีโอกาสศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าและมีความเชื่อว่าจะได้รับบุญกุศลจากการบวชสามเณร งานนี้จัดให้มีขึ้นช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ช่วงปิดเทอมฤดูร้อน โดยชาวบ้านจะตกลงกันกำหนดวันนัดหมายให้ลูกหลานได้บวชเรียนพร้อมๆ กัน มีการประดับประดาผู้ที่จะบวชด้วยเครื่องประดับมีค่าอย่างสวยงาม และประกอบพิธีบวชตามวัดที่เจ้าภาพศรัทธา
   แต่เดิมปอยส่างลองเป็นประเพณีที่จัดเฉพาะในหมู่ญาติมิตรของเจ้าภาพ ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2525 ได้เกิดมีแนวความคิดใหม่โดยจัดเป็นบรรพชาหมู่ร่วมกันมากถึง 200 รูป เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 200 ปี ทำให้ในเขตอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอนนิยมจัดบรรพชาหมู่สืบต่อมาถึงปัจจุบัน ปอยส่างลองจึงได้กลายเป็นประเพณีที่จูงใจให้มีผู้สนใจมากขึ้นกว่าแต่ก่อน



แก้ไขข้อความเมื่อ 
ความคิดเห็นที่ 2


    งานปอยส่างลองหรืองานประเพณีบรรพชาสามเณรตามแบบไทยใหญ่ กำหนดจัดขึ้นประมาณต้นเดือนเมษายนของทุกปีในทุกอำเภอของจังหวัดแม่ฮ่องสอน แต่สำหรับประเพณีปอยส่างลองในเขตเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอนนับเป็นการจัดงานที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมากที่สุดเนื่องจากมีขบวนแห่ส่างลองที่สวยงาม มีกิจกรรมที่สำคัญดังนี้
   วันที่ 1 เรียกว่า “วันแห่ส่างลอง” โดยนำเด็กชายเข้าพิธีโกนแต่ไม่โกนคิ้ว (พระพม่าไม่โกนคิ้ว) แต่งหน้าทาปาก สวมเสื้อผ้าสวยงาม สวมถุงเท้ายาว นุ่งโสร่งและโพกผ้าแบบพม่า ประดับด้วยมวยผมของบรรพบุรุษที่เก็บรักษาไว้แล้วตกแต่งด้วยดอกไม้ เสร็จขั้นตอนนี้แล้วจะเรียกเด็กเหล่านี้ว่า “ส่างลอง” นำส่างลองไปขอขมาและรับศีลรับพรตามบ้านญาติผู้ใหญ่ที่นับถือ



ขั้นตอนการจัดงานปอยส่างลอง

ปอยส่างลองหรืองานบวชลูกแก้วนั้นเป็นพิธีการเฉลิมฉลองของการบรรพชาสามเณรในศาสนาพุทธซึ่งปกติจะมีการจัดงานตั้งแต่ 3 – 5  - 7 วัน ซึ่งงานดังกล่าวนี้จะนิยมจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนมีนาคม ถึงต้นเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงหน้าแล้งที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ว่างเว้นจากการทำนาทำไร่ และเป็นช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อนของเด็กๆด้วย

ก่อนถึงวันประเพณีปอยส่างลอง อย่างน้อย 10 วัน พ่อแม่จะนำเด็กที่จะเข้ารับการบวช ไปฝากไว้กับหลวงพ่อ หรือพระอาจารย์ที่วัด เพื่อรับการฝึกสอนคำรับศีล คำให้พร คำขอบวช รวมถึงการกราบไว้ และก่อนจะเป็นส่างลอง เด็กซึ่งเป็นผู้ชายจะต้องโกนผม และอาบน้ำสะอาด หรือ น้ำเงิน น้ำทอง น้ำเพชร น้ำพลอย เพื่อเป็นสิริมงคล จากนั้นจะแต่งกายด้วยชุดเสื้อผ้าเครื่องประดับต่างๆ อย่างอลังการ มีการแต่งหน้าแต่งตาด้วยสีสันที่จัดจ้านให้ส่างลอง ดูสวยงามเสมือนเจ้าชายซึ่งมีสง่าราศีเหนือคนทั่วไป


วันแรกของปอยส่างลอง หรือ ที่เรียกกันว่า วันเอาส่างลอง หลังจากส่างลองได้ทำพิธีรับศีลแล้ว ผู้เป็นพ่อแม่รวมถึงเจ้าภาพจะจัดเลี้ยงอาหาร 12 อย่าง เป็นมื้อแรกแก่ส่างลอง จากนั้นจะนำส่างลองแห่รอบวิหาร 3 รอบ และแห่ไปกราบคารวะศาลหลักเมือง จากนั้น ในช่วงบ่ายก็จะนำส่างลองไปคารวะตามวัดต่างๆ


วันที่สอง หรือ "วันรับแขก" ทั้งส่างลอง และเจ้าภาพ จะคอยให้การต้อนรับแขกจากที่ต่างๆ ที่ได้มีการเชิญไว้ก่อนล่วงหน้า ซึ่งจะมาร่วมทำบุญด้วย ซึ่งวันนี้จะเป็นวันที่มีการเลี้ยงฉลองแขกและญาติๆ ที่มาร่วมงานอย่างสนุกสนาน
วันสุดท้าย คือ "วันบวช" พิธีของวันนี้จะเริ่มด้วยการนำส่างลองไปแห่รอบวิหาร 3 – 7 รอบ จากนั้นจะนำส่างลองขึ้นวัดเพื่อขออนุญาตทำการบรรพชาจากพระผู้ใหญ่ เมื่อท่านเจ้าอาวาส หรือพระผู้ใหญ่ได้อนุญาตแล้ว ส่างลองก็จะพร้อมกันกล่าวคำบรรพชาและอาราธนาศีล แล้วจึงเปลี่ยนเครื่องแต่งกายจากชุดเสื้อผ้าส่างลองที่สวยงามมาเป็นผ้ากาสาวพัตร์สีเหลือง และเป็นพระภิกษุ - สามเณรอย่างสมบูรณ์




ก่อนเข้าพิธีบวชหนึ่งวัน ส่างลองจะได้เข้าพิธีเรียกขวัญและการสวดคำขวัญ เพื่อให้เป็นสิริมงคลด้วย ซึ่งงานประเพณีปอย
ส่างลองนี้ แต่ละแห่งจะมีการจัดแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความสะดวกและลำดับขั้นตอนของที่นั้นๆ โดยเฉพาะกำหนดวัน ซึ่งที่ที่มีการจัดงานมากกว่า 3 วัน จะเลื่อนวันรับแขกออกไปวันอื่น และในช่วงการจัดงานจะมีการนำส่างลองไปเยี่ยมบ้าน หรือ ไปคารวะวัดและเยี่ยมเยือนหมู่บ้านต่างๆ  ที่ขาดไม่ได้คือ ตลอดงานจะต้องมีการแห่ส่างลอง รอบวิหารของวัดพร้อมมีการรับศีลทุกเช้าเย็น ที่สำคัญตลอดงานส่างลองจะต้องไม่แตะพื้นที่ดิน ซึ่งหากจำเป็นจะไปไหนมาไหน ผู้เป็น ตะแป หรือ พ่อส้าน จะคอยดูแลโดยให้ขี่คอ และจะมี ตะแป อีกคนคอยกางร่มให้ตลอดเวลา 


เรียกแถวแล้วครับ


เตรียมตัวไป จัดขบวนแห่

แก้ไขข้อความเมื่อ 
ความคิดเห็นที่ 3
เข้ามาชมค่ะ
ความคิดเห็นที่ 4
นั้งกัน เรียบร้อย รอ เวลา แห่รอบเมือง


องค์ประกอบงานบวช “ปอยส่างลอง”

1.    ชุดส่างลอง (เครื่องแต่งกายต่างๆ)
2.    ร่มทอง (สำหรับกางให้ส่างลอง)
3.    ตะแป - พ่อส้าน แม่ส้าน (ผู้คอยปรนนิบัตร)
4.    จีวร
5.    อัฐบริขาร (ประกอบด้วย เครื่องใช้ต่างๆ)
6.    ต้นเงิน
7.    สังฆทาน
8.    ต้นข้าวตอก หรือ ต้นข้าวแตก
รวบรวมโดย "คนเครือไท 








"หนูอยากแปลงกายเป็นเทวดา (ส่างลอง)
แก้ไขข้อความเมื่อ 
ความคิดเห็นที่ 5

ขบวนแห่ พร้อมแล้วครับ คนที่จะมาให้ขี่คอ  ถ้าตัวเล็กก็ยังไหว
ไม่เป็นญาติ ก็พ่อ หรือพี่น้อง แต่ทางวัดก็จัดไว้ให้ครับ


















แก้ไขข้อความเมื่อ 
ความคิดเห็นที่ 6
เห็นแล้วอยากมีส่วนร่วมจัง
ความคิดเห็นที่ 7

โปรยข้าวตอก ให้กับ ส่างลอง







ความคิดเห็นที่ 8
ปีนี้ วัดศรีบุญเรือง ส่างลอง  109 องค์
เณร 96 พระ 13

ส่างลอง ตัวใหญ่ก็นั่งรถ แห่ ครับ






มโหรีบรรเลง


เหนือยกันมาก เพลียแดด คับ ขอหลับ

ขบวนยาวมากเหมือนกันคับ 


กลับถึงวัดศรีบุญเรือง ก็ค่ำ ครับ หมดไปวันนึง  เจอกันพรุงนี้ ตีสี่ครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ 
ความคิดเห็นที่ 9

เช้าวันที่ 5 เมษายน 2557
ตีสี่ เปิดเนตร แต่งตัวส่างลอง กันทุกวัน แต่เช้า
วันที่ 4-6 เมษา 2557 อ.แม่สะเรียง แม่ฮ่องสอน
ปอยส่างลอง - วัดศรีบุญเรือง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน
พิกัด 18 9.5673N 97 55.8828E








แต่งตัว ส่างลอง


ถ้าไม่ใช่เด็ก ก็ บวชพระครับ



เตรียมตัว แห่รอบที่สาม ขอทานข้าวก่อน





รอบก็เล็กลงครับ  แปดโมงเช้า ก็เริ่มแห่ละคับเดียวร้อน










พิธีเรียกขวัญ ผูกข้อมือ รับขวัญส่างลอง
ความคิดเห็นที่ 10
1030    พิธีเรียกขวัญ ผูกข้อมือ รับขวัญส่างลอง













มีการแสดง ด้วยครับ


นายอำเภอ  ผูกข้อมือ รับขวัญส่างลอง


ทานข้าว 12 อย่าง


ป้อนข้าว ส่างลอง คำแรก



ณีณัฏฐ์ ผลวาทิต” ผู้ช่วยผู้อำนวยการการท่องเที่ยวจังหวัดตาก




แก้ไขข้อความเมื่อ 
ความคิดเห็นที่ 11


พิธีเปิดงาน “งานสืบสานวัฒนธรรม ประเพณีปอยส่างลอง เทิดไท้องค์ราชันย์”   ณ พิพิธภัณ       อำเภอแม่สะเรียง

นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานเปิดงาน


ททท แม่ฮ่องสอน


ขอถ่ายรุปหมู่ หน่อยครับ


สาวๆ น่ารักคับ


การแสดง ก่อน พิธีเปิด


ส่างลอง พร้อมคับ
แก้ไขข้อความเมื่อ 
ความคิดเห็นที่ 12


เคลื่อนขบวนผ้าไตรพระราชทาน ในพระอุปถัมภ์ของพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ชมความตระการตาของขบวนแห่ “ปอยส่างลอง” พร้อมเครื่องไทยทานร่วมงานประเพณีปอยส่างลอง ประจำปี 2557 จากวัดศรีบุญเรือง อำเภอ       แม่สะเรียง รอบเขตเทศบาลอำเภอแม่สะเรียง



แก้ไขข้อความเมื่อ 
ความคิดเห็นที่ 13
ขบวน แห่



ขบวน ส่างลอง








ความคิดเห็นที่ 14
แล้วเราก็ไปรอที่วัด  มีจัดตลาด จำลองไว้ต้อนรับ
กาดมั่ว






อร่อยจริง ๆ  ผว. นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ยืนยัน


นางรำ
ความคิดเห็นที่ 15
ขบวนมาถึงวัดแล้วครับ


พวกเราก็อิ่มแล้ว



ตำนานปอยส่างลอง

ตำนานปอยส่างลองนี้ ถือตามความเชื่อ 2 ประการ คือ ว่ากันว่าเป็นการเลียนแบบตามประวัติขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตอนที่เป็นเจ้าชายสิทธัตถะแห่งกรุงกบิลพัสดุ์เมื่อครั้งก่อนจะออกผนวช เนื่องจากเป็นเจ้าชายจึงมีการแต่งกายในรูปกษัตริย์ และเมื่อครั้งเตรียมออกผนวช ได้มีนาย ฉันนะ เป็นผู้ติดตามอารักขา ฉะนั้น การจัดงานปอยส่างลอง ของชาวไทยใหญ่จึงมีการแต่งองค์ทรงเครื่องให้กับเด็กคล้ายดังเจ้าชาย และมีลูกน้อง หรือที่เรียกว่า ตะแป หรือ พ่อส้าน แม่ส้าน คอยให้การปรนนิบัตรตลอดงาน ซึ่งหน้าที่ของ ตะแป (พ่อส้าน แม่ส้าน) คือ คอยแต่งหน้า แต่งตัว และยอมให้ขี่คอ เมื่อมีการนำส่างไปแห่ หรือ เวลาที่ส่างลองต้องการไปไหนมาไหน





ความคิดเห็นที่ 16

ส่วนอีกตำนานหนึ่งที่ถูกบันทึกไว้ ในหนังสือไทยใหญ่ที่เขียนโดยเจ้าหน่อคำ นักอักษรศาสตร์ชื่อดังของชาวไทยใหญ่ ได้กล่าวไว้ว่า เมื่อครั้งสมัยพุทธกาล ในกรุงราชคฤห์ มีกษัตริย์องค์หนึ่งพระนามว่า พระเจ้าพิมพิศาล ซึ่งเป็นสร้างพระวิหารถวายพระพุทธเจ้าและปาวารณาตนเป็นทายกของพระพุทธเจ้าตลอดชีวิต พระเจ้าพิมพิศาล มีโอรสพระองค์หนึ่ง นามว่า อาชาตศัตรู วันหนึ่งเจ้าชายอาชาตศัตรูได้เสด็จไปยังลานพระวิหารที่พระพุทธเจ้าประทับอยู่ และบังเอิญได้พบกับพระเทวทัต เมื่อนั้นพระเทวทัตได้อัญเชิญอาชาตศัตรูเสด็จขึ้นไปบนกุฏิและได้กล่าวยกย่องว่าเป็นผู้มีบุคลิกดี เฉลียวฉลาดปราดเปรื่อง สมควรเป็นกษัตริย์ปกครองบ้านเมือง พร้อมกับยุแหย่ว่าพระเจ้าพิมพิศาลนั้นทรงชราภาพมากแล้ว ไม่เหมาะสมที่จะเป็นกษัตริย์อีกต่อไป เพราะจะไม่สามารถนำทัพไปสู้รบกับใครได้ อาจสูญเสียแผ่นดินให้กับเมืองอื่น จึงแนะนำให้พระเจ้าอาชาตศัตรูปลงพระชนม์


เจ้าชายอาชาตศัตรูเมื่อได้ฟังดังนั้นก็เกิดความขุ่นเคืองไม่พอพระทัยเป็นอย่างยิ่ง จึงกล่าวตำหนิว่าใครจะสังหารบิดาของตัวเองได้ลงคอ จากนั้นจึงรีบเสด็จกลับทันที ฝ่ายพระเจ้าเทวทัตไม่ลดละความพยายาม โดยได้หาโอกาสพบกับเจ้าชายอาชาตศัตรูอีกครั้ง และได้ทูลกระซิบให้พระเจ้าอาชาตศัตรูจับพระบิดาขังไว้โดยเสนอไม่ให้เสวยอาหาร 7 วัน เพื่อจะได้สิ้นพระชนม์ฺอย่างสงบ พร้อมทูลอีกว่าตัวเขาเองก็จะหาทางปลงพระชนม์พระพุทธเจ้า เพื่อที่จะได้เป็นพระพุทธเจ้า หลังจากนั้นท้องสองพระองค์จะร่วมกันพัฒนาบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรืองแทน


เจ้าชายอาชาตศัตรูเมื่อได้ฟังดังนั้นก็หลงเชื่อ หลังกลับถึงวังได้สั่งให้ทหารนำพระบิดาไปขังไว้พร้อมสั่งไม่ให้ผู้ใดนำอาหารไปให้เสวย ฝ่ายพระมารดาเมื่อทราบข่าวก็เกิดความรู้สึกสงสารในพระสวามี จึงได้ทำขนมใส่เกล้าผม บางครั้งใส่รองเท้า หรือทาตามตัวบ้าง แอบเข้าไปเยี่ยมและให้เสวย จนกระทั่งเวลาผ่านไปครบ 7 วันพระเจ้าพิมพิศาลก็ยังมีชีวิตอยู่ และยังสามารถนั่งนอน ลุกเดินไปมาภายในห้องขังได้ เมื่อเจ้าชายอาชาตศัตรู ทราบเรื่องก็ได้สั่งให้ทหารเฉือนเนื้อฝ่าเท้าของพระบิดาออกแล้วให้เอาน้ำเกลือทา เพื่อไม่ให้เดินไปมาได้



ระหว่างกำลังขังทรมานพระบิดาอยู่นั้น เจ้าชายอาชาตศัตรูได้นำพาพระโอรสไปเยี่ยมพระมารดา และระหว่างนั้นได้ทรงตรัสกับพระมารดาว่า เขามีความรักใคร่ในพระโอรสของเขามาก และได้ทรงตรัสถามพระมารดาว่า เมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์พระบิดาจะทรงรักตนเหมือนที่ตนรักพระโอรสหรือไม่ เมื่อพระมารดาได้ยินเช่นนั้น จึงตรัสว่า “เจ้ารักลูกเจ้ามากนั้นคงไม่จริงหลอก เพราะของเล่นต่างๆ ซึ่งล้วนมีค่าที่ลูกเจ้าเล่นอยูทุกวัน เป็นของเล่นที่พ่อเจ้าซื้อให้เจ้าทั้งสิ้น เจ้าไม่ได้ซื้อหามาให้ลูกเจ้าแม้แต่ชิ้นเดียวเลย”


เจ้าชายอาชาตศัตรู เมื่อได้ฟังดังนั้นจึงแน่นิ่ง และทรงสำนึกผิดที่ได้กระทำต่อพระบิดา จากนั้นจึงรีบเสด็จไปยังที่คุมขังพระบิดา เพื่อนำตัวออกมารักษา ทว่า พระบิดาได้สิ้นพระชนม์เสียแล้ว เมื่อเป็นเช่นนั้น เจ้าชายอาชาตศัตรู เกิดความรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง จากนั้นจึงรีบเสด็จไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า พร้อมกับทูลเล่าเรื่องทังหมด เมื่อพระพุทธเจ้า ได้ฟังดังนั้นจึงตรัสว่า “เพราะคบคนพาลจึงได้ทำบาปมหันต์เช่นนี้ เพื่อผ่อนบาปที่หนักให้เป็นเบา ให้นำพระโอรสมาถวายเป็นทานในพระพุทธศาสนา โดยที่ให้เขาสมัครใจ”


เมื่อทราบดังนั้น เจ้าชายอาชาตศัตรู ได้ชักชวนพระสหายพร้อมด้วยอำมาตย์ให้นำบุตรหลานเข้าร่วมรับการบวช ซึ่งมีจำนวนกว่า 500 คน ก่อนบวชได้มีการจัดงานใหญ่ 7 วัน 7 คืน พร้อมกับมีการแต่งองค์ทรงเครื่องบุตรหลานด้วยเครื่องประดับสวยงาม พร้อมกับมีการนำบุตรหลานอาบน้ำขมิ้นส้มป่อย ซึ่งถูกแช่ด้วยเพชร พลอย ทองคำ เงิน เพื่อเป็นสิริมงคล จากนั้นได้แห่ไปตามถนนรอบกรุงราชคฤห์ด้วยการขี่ช้าง ขี่ม้า หลังครบ 7 วัน จึงนำไปเ้ข้ารับการบรรพชาเป็นสามเณรต่อหน้าพระพุทธเจ้าและเหล่าพระสงฆ์สาวกทั้งหลาย จากเหตุนี้ ชาวไทใหญ่จึงได้ยึดถือนำมาปฏิบัติจัดเป็นงานประเพณีปอยส่อง จนถึงปัจจุบัน

ความคิดเห็นที่ 17
ขอบคุณ ททท แม่ฮ่องสอน และ โฟโตเทคครับ

Post a Comment

0 Comments